พ่อร่ำไห้ ลูกสาววัย 16 ใช้ปืนยิงหัวตัวเองตาย ประชดพ่อห้ามขี่มอเตอร์ไซค์

พ่อห้ามลูกสาววัย 16 ปี ขี่มอเตอร์ไซค์ หลังเกิดอุบัติเหตุ ไม่คาดคิดว่าลูกจะใช้ปืนยิงตัวตายคาห้องนอน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าวันนี้ (12 ส.ค.) เมื่อเวลา 15.30 น. ร.ต.อ.คำรณ จันทรทิตย์ ร้อยเวร สภ.ชุมแสง ได้รับแจ้งว่ามีคนถูกอาวุธปืนยิงเสียชีวิตอยู่ภายในบ้านหลังหนึ่ง ถ.แสงมุกดา เขตเทศบาลชุมแสง อ.ชุมแสง จ.นครสวรรค์

ที่เกิดเหตุ เป็นบ้านไม้สองชั้น มีรั้วรอบขอบชิด พบว่าภายในห้องนอนชั้นแรกของบ้าน มีศพผู้เสียชีวิตนอนจมกองเลือดอยู่บนเตียงนอน ในสภาพมีรอยถูกอาวุธปืนยิงเข้าที่ศีรษะ โดยที่บริเวณหว่างขาของผู้ตาย มีอาวุธปืนขนาด .38 ตกอยู่ 1 กระบอก ซึ่งทราบชื่อผู้ตายในเวลาต่อมา คือ น.ส.วิ (นามสมมติ) อายุ 16 ปี เป็นนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ของโรงเรียนแห่งหนึ่งในพื้นที่ อ.ชุมแสง

จากการสอบสวนในเบื้องต้น นายยุทธ์ (นามสมมติ) อายุ 42 ปี บิดาของผู้ตายและเจ้าของร้านขายกล่อง กล่องเบเกอร์รี่ กล่องใส่ขนม ให้การว่า ตนเป็นพ่อม่าย มีอาชีพเป็นพ่อค้าขายเนื้อ และที่บ้านมีผู้พักอาศัยอยู่รวมกัน 4 คน คือ มารดา ตน และบุตรของตนอีก 2 คน ส่วนผู้ที่เสียชีวิตเป็นบุตรสาวคนโต

ขณะเกิดเหตุ บุตรสาวคนนี้อยู่บ้านเพียงลำพัง เนื่องจากมารดาของตนและบุตรสาวคนเล็กออกมาช่วยตนขายของที่ตลาด จึงคาดว่าบุตรสาวน่าจะน้อยใจจึงตัดสินใจเอาอาวุธปืนมายิงตัวเองจนเสียชีวิต เนื่องจากอาวุธปืนที่พบตกอยู่ที่หว่างขาของบุตรสาว เป็นอาวุธปืนของพ่อตนที่เสียชีวิตไปแล้ว และเก็บเอาไว้ในห้องนอนของบุตรสาว

“ก่อนหน้านี้ 1 อาทิตย์ ลูกสาวได้ขับขี่รถจักรยานยนต์ไปประสบอุบัติเหตุชนท้ายรถกระบะ จึงทำให้ผมต้องสั่งห้ามลูกไม่ให้ขับขี่รถจักรยานยนต์อีกอย่างเด็ดขาด เพราะเป็นห่วงลูก กลัวว่าจะไปประสบอุบัติเหตุอีก และตั้งแต่นั้นมาผมสังเกตได้ว่าน้องเกิดอาการเคืองผมอย่างมาก เพราะไม่มาสุงสิงและไม่พูดคุยกับคนในบ้านอีกเลย และในแต่ละวันหลังกลับจากเลิกเรียนก็มักจะเก็บตัวอยู่แต่ในห้องนอน จึงคาดว่าน่าจะเกิดความน้อยใจอย่างหนัก และคิดอยากจะประชดผมที่ห้ามไม่ให้ขี่รถจักรยานยนต์ จึงตัดสินใจหยิบอาวุธปืนออกมายิงตัวเองจนเสียชีวิต” ผู้เป็นพ่อ กล่าวทั้งน้ำตา

เบื้องต้น ทางเจ้าหน้าที่ได้ทำการชันสูตรตรวจสอบสภาพศพของผู้ตาย ก่อนจะส่งไปตรวจพิสูจน์อย่างละเอียดอีกครั้งที่โรงพยาบาลชุมแสง ซึ่งทางเจ้าหน้าที่จะมีการเชิญบิดาของผู้เสียชีวิต รวมถึงผู้ที่อยู่ภายในบ้านที่เกิดเหตุทั้งหมดมาสอบสวน เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงต่อไป