หนุ่มถือปืนจ่อขมับตัวเอง กลางสะพานพระราม 4 คู่รักสาวพลเมืองดีช่วยเกลี้ยกล่อม เผยน้อยใจแม่ไม่พาเที่ยวต่างประเทศ
(26 ก.ค.65) เมื่อเวลา 13.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ปากเกร็ด รับแจ้งเหตุหนุ่มเอาปืนจ่อหัวตัวเองบนสะพานพระราม 4 จึงพร้อมด้วย พันตำรวจโทสุเนตย์ ศรีชำนาญ รองผู้กำกับปราบปราม สภ. ปากเกร็ด และเจ้าหน้าที่สายตรวจรุดไปตรวจสอบ
พบชายหนุ่มอายุราว 20 ปี อยู่บนกลางสะพานในสภาพถือปืนจ่อขมับตัวเอง เจ้าหน้าที่พยายามพูดคุยและเจรจาเกลี้ยกล่อมอยู่นานกว่าครึ่งชั่วโมง จึงนำตัวลงมาได้อย่างปลอดภัย เบื้องต้นเท่าที่สอบถามสาเหตุคาดว่าหนุ่มน้อยรายนี้ น้อยใจที่บ้านไม่พาไปเที่ยวต่างประเทศ พลเมืองดีพบเห็นจึงแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเกลี้ยกล่อม ก่อนอาศัยจังหวะเผลอ เข้ารวบตัวจนสำเร็จ
น.ส. หนึ่งฤทัย อายุ 38 ปี เล่าว่า ตนเห็นมีคนไลฟ์สดและเอาปืนจ่อหัว แฟนตนจึงให้ตนเข้าไปช่วยแต่ตนไม่กล้า เพราะเขามีปืน แฟนตนจึงเป็นคนเข้าไปเอง พอเดินเข้าไปใกล้ๆ เขาหันปืนมาหาตน ตนจึงกระโดนข้ามฝั่งไปที่ถนน ตนจึงสังเกตว่าอาจจะไม่ใช่ปืนจริง คาดว่าเป็นปืนบีบีกัน จึงข้ามฝั่งกลับมาและค่อยๆ ขยับเข้าตัวเขาเรื่อยๆ และให้แฟนโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ และค่อยๆ กล่อมเขาว่ามีปัญหาหรือสาเหตุอะไรที่จะคิดฆ่าตัวตาย
เขาจึงตัดสินใจเดินมาคุยกับตนว่าน้อยใจพ่อแม่ แม่นัดจะพาไปเมืองนอกเมื่อปีที่แล้ว แต่แม่ไม่พาไป ปีที่แล้วแม่ไปซื้อ ซองเอกสาร ซองใส่เอกสาร ประเทศจีนได้แต่ทำไมพาเขาไปไม่ได้ ตั้งแต่เเม่กลับมาจากประเทศจีนก็ยังไม่พาเขาไป ตนจึงบอกให้คิดให้ดีๆ เพราะบ้านมีฐานะ คงไปเที่ยวเมืองนอกได้อีกไม่นาน ตนจึงดูสถานการณ์และส่งสัญญานให้เจ้าหน้าที่ว่าเป็นปืนปลอม ซึ่งตนมั่นใจมาก เพราะตนคอยมองที่ปืนตลอด ทางเจ้าหน้าที่จึงค่อยๆ ขยับเข้ามาเรื่อยๆ และชาร์จเข้าที่ตัว
น.ส.นัทฐา อายุ 43 ปี เล่าว่า ตนโทรไปแจ้ง 191 ว่ามีคนเอาปืนจ่อหัวตัวเอง ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงรีบมา แต่แฟนตนเข้าไปกล่อมก่อน ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะมา ซึ่งใช้เวลาประมาณ 15 นาทีกว่าจะเกลี้ยกล่อมได้ เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ประสานผู้ปกครองของผู้ก่อเหตุมารับตัวกลับบ้านในเวลาต่อมา
